เกร็ดความรู้การเมือง




ประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ในประเทศไทย ถือได้ว่ามี การปฏิวัติ เกิดขึ้นครั้งแรกและครั้งเดียวคือ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 โดยคณะราษฎร จากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย และมีการกบฏเกิดขึ้น 12 ครั้ง และรัฐประหาร 8 ครั้ง ดังนี้



กบฏ 12 ครั้ง

1.กบฏ ร.ศ.130
2.กบฏบวรเดช (11 ตุลาคม 2476)
3.กบฏนายสิบ (3 สิงหาคม 2478)
4.กบฏพระยาทรงสุรเดช หรือกบฏ 18 ศพ (29 มกราคม 2482)
5. กบฏเสนาธิการ (1 ตุลาคม 2491)
6.กบฏแบ่งแยกดินแดน (พฤศจิกายน 2491)
7.กบฏวังหลวง (26 กุมภาพันธ์2492)
8.กบฏแมนฮัตตัน (29 มิถุนายน 2494)
9.กบฏสันติภาพ (8 พฤศจิกายน 2497)
10.กบฏ 26 มีนาคม 2520
11.กบฏยังเติร์ก (1-3 เมษายน 2524)
12.กบฏทหารนอกราชการ (9 กันยายน 2528)

รัฐประหาร 8 ครั้ง

1.พ.อ.พระยาพหลฯ ทำการรัฐประหาร (20 มิถุนายน 2476)
2.พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ และคณะนายทหารบก ทำการรัฐประหาร (8 พฤศจิกายน 2490)
3.จอมพล ป. พิบูลสงคราม ทำการรัฐประหาร (29 พฤศจิกายน 2494)
4.จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการรัฐประหาร (16 กันยายน 2500)
5.จอมพลถนอม กิตติขจร ทำการรัฐประหาร (20 ตุลาคม 2501)
6. จอมพลถนอม กิตติขจร ทำการรัฐประหาร (17 พฤศจิกายน 2514)
7.พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ทำการรัฐประหาร (20 ตุลาคม 2520)
8.พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ทำการรัฐประหาร (23 กุมภาพันธ์ 2534)
9.คณะผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ ผบ.ตร. ทำการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ที่มา : เวบ...รากฐานไทย ฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาประเทศ

สงครามครั้งนี้ใครคือผู้ชนะ !

23 กันยายน 2551

การเมืองไทย แบบเดิม ๆ กับ เรื่องเดิม ๆ !!!


บัดนี้ก็ได้เห็นหน้า นายก คนที่ 26 กันแล้วน่ะครับ

สิ่งที่ตามมาทุก ๆ ครั้งหลังจากได้นายกคนใหม่คือ

การต่อรองเก้าอี้

นักการเมืองได้ใช้กลเม็ดเด็ดพรายต่าง ๆ

ตีมาดแสนดี รักบ้านเมืองและประชาชน

ลับหลัง วิ่งกันวุ่นวายย เพื่อ ลอบบี้ หา ส.ส. หาเสริมทัพ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองเก้าอี้ต่าง ๆ

ที่นักการเมืองต่าง ๆ จัดเป็นเกรด ๆ ไว้

เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก กับการเมืองแบบไทยๆ

และจะเกิดต่อไปเรื่อยๆ เพราะนักการเมือง ยังเล่นเกมการเมือง

เพื่อหาผลประโยชน์ มากกว่าจะต้องการทำเพื่อส่วนรวม

หรือทำตนให้เหมาะสมกับ ตำแหน่งที่เป็นอยู่ คือ

ตัวแทนของประชาชน


17 กันยายน 2551

เมื่อถึงการสิ้นสุด ! ! !

แม้ว่าจะหมดอำนาจ เวลา ในทำ BLOG นี้แล้วว

แต่กลุ่มพวกเรา ก็จะยังคงอัพข่าวต่อไป เพราะ

พวกผมเห็นว่า เป็นทางนึงในการเสนอข้อมูลข่าวสาร

และรวมถึงการแสดงพลังของนักศึกษาที่ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย

อย่างไงติดตามกันต่อไปครับ

14 กันยายน 2551

นักการเมืองไทยยังห่างไกล กับคำว่า สปิริต


พวกท่านคงรู้ และรับทราบ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551
เวลาประมาณ 1.00 น.

ได้มีการ เคลื่อนพล ของ นปก. มาประจัญหน้ากับ พันธมิตร
จนมีผลให้ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
แต่กลับไม่มีการรับผิดชอบใดๆ จากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ

ซึ่ง ผบช.น. น่าจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง


หรือ เมื่อมอง ย้อนไปอีกไม่ไกลกับนักการเมืองไทย
อีกหลายราย เช่น รมต. บางท่าน
มีคุณสมบัติไม่ครบเรื่องถือหุ้นเกินที่กฏหมายกำหนด
แทนที่จะแสดงสปิริตลาออกกลับต้องให้ศาล
ตีความให้เรื่องยืดเยื้อ

ถึงแม้จะเป็นเพียงข้อบกพร่องที่อาจะเกิดจากความเลินเล่อ

ก็น่าจะแสดงสปิริตไม่น่าให้ต้องมาตีความกันแบบนี้


เรื่อง สปิริต กับนักการเมืองไทยเดี๋ยวนี้ดูๆ ไปแล้ว

ยิ่งตำแหน่งสูงความมีสปิริตยิ่งลดลง

ช่างสวนทางกันซะเหลือเกิน


หรืออย่างไรใครรู้ช่วยบอกที่?

09 กันยายน 2551

ใครจะเป็นนายกคนต่อไป ! ?


ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี "สมัคร สุนทรเวช"

จัดรายการชิมไปบ่นไป

มีมติเอกฉันท์ 9 - 0 ให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ฉะนั้นต้องทำทำการเลือก นายกรัฐมนตรีคนใหม่

โดยล่าสุดนี้

ประธานสภาฯนัดประชุม เพื่อเลือกนายกในวันศุกร์นี้

เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ

คิดว่าใครจะเป็นนายกคนต่อไป ?


เพราะเหตุใด

แล้วจะยุติปัญหาต่างๆได้หรือไม ?


05 กันยายน 2551

การเมือง และ การศึกษา ! ! !

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "การศึกษาไม่ควรเกี่ยวข้องกับการเมือง"

แล้วเขาคนนั้น ไม่ให้ผมไปยุ่งเรื่องการเมือง

ทำไมเหรอครับนักศึกษาเป็นที่มีความรู้ และมีสิทธิมีเสียงในการเลือกตั้ง

จะสามารถมีส่วนร่วมในการคิดเห็นทางการเมืองไม่ได้เลยหรือ

อย่างงั้นก็ไปเปลี่ยนแปลงอายุของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสิครับ

สักอายุ 25 ดีไหม พวกเราเข้าใจ!

ที่ท่านอาจจะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ


ในส่วนนี้ ก็เห็นด้วยเพราะ บางครั้งเราไม่รู้ว่าฝ่ายนู่นต้องการอะไร

จะทำอะไร หรือมาในรูปแบบไหน


หากเกิดอะไรขึ้นมาแล้ว ผู้ที่รับผิดชอบคือฝ่ายรัฐบาล

หรือเมื่อมีการชุมนุมกันมากขึ้น เรื่อย ๆ จนกระทั้ง



ซ้ำรอยเดิมในอดีตแล้ว กระนั้นแล้วสิ่งที่รัฐบาลควรทำคืออะไร


เช่นนั้นแล้ววมันจะจบที่ตรงไหน . . . . . !


What do you thing Education and Politics?

"I disagree that students related with politics" somebody said that.

Student can not give reason or do something about politics, WHY?

Maybe they care security of student who go to join with Mob.

We are student and have voting.


Do you agree ?

02 กันยายน 2551

"อวสาน" เขาพระวิหารแหล่งแลกบ่อน้ำมันในเขมร !!!


“เขาพระวิหาร” “แหล่งพลังงาน” “ปตท.” และกลุ่มทุนอดีตนายกฯ “ทักษิณ” กลายเป็นเรื่องเดียวกันอย่างแทบไม่น่าเชื่อ... แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะ “พลังงาน” เป็นสิ่งมีค่า เป็น “ขุมทอง” ที่ทักษิณยอมแลกได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะทำให้ต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้กับเขมร และอาจต้องสูญเสียดินแดนและอธิปไตย ก็เพื่อแลกกับพลังงานในอ่าวเขมร แหล่งพลังงานที่เหลืออยู่แห่งเดียวในโลก ปริศนานี้กำลังถูกเฉลยออกมาว่าทำไม ทักษิณ ถึงต้องมีเอี่ยวใน ปตท.


ว่าด้วยเรื่องเขาพระวิหารแล้ว “นภดล ปัทมะ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตทนายความและโฆษกประจำตัวของ “ทักษิณ” ไปลงนามเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 เพื่อยอมรับคำแถลงการณ์ร่วม ไทย – กัมพูชา สนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก จนอาจทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน กลายเป็นข้อสงสัยว่าเพื่ออะไร เพราะก่อนลงนามเพียง 1 เดือน พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กัมพูชา ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยว่า “ทักษิณ” จะลงทุนธุรกิจพลังงาน เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติในกัมพูชา โดยเฉพาะการเช่าเกาะกง ซึ่งมีรีสอร์ดังอย่าง “สีหนุวิลล์” เป็นจุดขาย


ที่สำคัญกว่านั้น ทางกัมพูชายังมีความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เพื่อสำรวจและวิจัยแหล่งพลังงานทั้งทางใต้ดินดาวเทียม บริเวณพื้นที่ชายฝั่ง และเบื้องต้นว่า บริเวณทะเลสาบ หรือ “โตนเลสาบ” ใจกลางประเทศ ยังมีแนวโน้มของแหล่งน้ำมันดิบ นอกเหนือจากแถบชายฝั่งที่มีแหล่งก๊าซอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะแถบ “จังหวัดเกาะกง” ของกัมพูชา จังหวัดทะเลชายฝั่งทางตอนใต้ ซึ่งพบแหล่งน้ำมัน นั่นหมายความว่า เกาะกง กัมพูชา เป็นแหล่งน้ำมันแหล่งใหญ่ของโลกที่ยังคงเหลืออยู่ และยังไม่ได้ถูกขุดเจาะ ย่อมเป็นที่หมายปองของนานาประเทศทั่วโลก รวมทั้งทักษิณและเครือข่าย


ความหอมหวนของแหล่งพลังงานในกัมพูชาจึงเป็นแหล่ง “ขุมทอง” ขนาดใหญ่ที่ “ทักษิณ” ยอมเดิมพันได้ทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็น “เขาพระวิหาร”
หากสังเกตุดีๆในการที่คณะกรรมการมรดกโลกได้สนับสนุนกัมพูชา เป็นเพราะทุกประเทศล้วนแต่เล็งเห็นขุมทรัพย์บ่อน้ำมันของเขมร ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส ที่มีกลุ่มโทเทิ่นออยล์ (TOTAL Oil) และจีน ที่บริษัท CNOOC บริษัทน้ำมันเข้าไปสำรวจหาก๊าซและน้ำมันดิบในกัมพูชา และการยอมรับเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชายังสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนและอธิปไตย เป็น “โดมิโน” ที่ส่งผลกระทบถึงปัญหา “พื้นที่ทับซ้อน” ระหว่างเขตแดนไทยและกัมพูชาในหลายจังหวัด


นักธุรกิจระดับชาติอย่างทักษิณ ย่อมรู้ดีว่าธุรกิจพลังงานเป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่ทำรายได้ให้มหาศาล หาใช่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอยู่ในช่วงขาลง ไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนในอดีต หรือแม้แต่การซื้อธุรกิจสโมสรทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็เพื่อสร้างโปรไฟล์ให้ดูดี ไม่ใช่ธุรกิจที่ทำรายได้งดงามเหมือนกับธุรกิจพลังงาน


และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมทักษิณจึงต้องเป็นเจ้าของ ปตท. ซึ่งมีความพร้อมในเรื่องทั้งขุดเจาะ จัดจำหน่าย ดังนั้น ปตท. จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจพลังงานในเขมรเป็นจริง โดยมีเครือข่ายธุรกิจพลังงานของอัล ฟาเยด ร่วมเป็นกองหนุน


ปรามสารทพระวิหาร “แหล่งน้ำมัน – ก๊าซเขมร – ทักษิณ” “ปตท.” “โมฮัมหมัด อัลฟาเยด” กลายเป็นเรื่องเดียวกันอย่างแทบไม่น่าเชื่อ... จนนำมาสู่ “คนไทยจะขายชาติกันเอง” ด้วยการวางแผนอย่างแนบเนียนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา


จะเกิดอะไรขึ้น หากทักษิณสามารถนำบริษัทเข้าไปลงทุนในเขมร?





01 กันยายน 2551

ลอยตัว LPG ผลประโยชน์เพื่อใคร !!!


เปิดโปงเส้นทางผลประโยชน์ ก๊าซ LPG ใครคือเจ้าของตัวจริง! ทำไมรัฐจึงต้องประกาศลอยตัวาคาก๊าซ LPG เกี่ยวพันอย่างไรกับก๊าซ NGV ใครคือผู้ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงกับการพลังงานทดแทนเพื่อชาติครั้งนี้


ขบวนรถต่อแถวเติมก๊าซในสถานี ปตท. ยาวเหยียด ต้องรอคิวนานร่วมชั่วโมง และมักจบด้วยการสร้างความผิดหวังให้ผู้อดทนรอ เพราะจู่ๆ ก็ “ก๊าซหมด” จากปั๊ม กลายเป็นภาพที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เนื่องจากสถิติจำนวนรถหันมาหาก๊าซ NGV (Natural Gas for Vehicles) และ (LPG Liquefied Petroleum Gas) “พลังงานทดแทน” ในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งทะยานไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ถังก๊าซกลับพุ่งพรวดเพิ่มขึ้นทุกวัน ที่สำคัญก๊าซกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ไม่ได้เกิดเฉพาะกับก๊าซ NGV เท่านั้น แต่ยังลามไปถึง LPG ซึ่งเคยเป็นทางเลือกของผู้ที่ไม่ต้องการเข้าแถวรอเติมก๊าซ NGV


อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณา “ผู้เล่น” ในตลาดก๊าซ LPG รายอื่นๆ อย่างบริษัทก๊าซผู้รับช่วงจาก ปตท. ไม่ว่าจะเป็น “สยามแก๊ส” หรือ “เวิลด์แก๊ส” ก็ล้วนแต่ได้ประโยชน์ จากการลอยตัวราคา LPG ทั้งสิ้น และเมื่อตรวจสอบข้อมูลบริษัทเหล่านี้ กลับมีความพัวพันของผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเหลือเชื่อ

“สยามแก๊ส” หรือ สยามแก๊สแอนด์ปิโตรเคมีคลส์ ที่กำลังเข้าตลาดหุ้นในเร็ววัน ก็พบชื่อพลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบทบ. ลูกพี่ลูกน้องของอดีตนายกฯ “ทักษิณ” เป็นประธานกรรมการ ส่วน “เวิลด์แก๊ส” นั้นถือหุ้นเกือบ 100% โดยปิกนิก คอร์ปอเรชั่น ที่รุ่งเรืองจากธุรกิจก๊าซและถังก๊าซ จนเข้าตลาดหุ้นได้ในช่วงรัฐบาล “ทักษิณ” ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ของ “ปิกนิก” คือคนในตระกูลลาภวิสุทธิสิน อดีตนายทุนของพรรคไทยรักไทย จนสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ได้เก้าอี้ รมช.กระทรวงพาณิชย์ เป็นการตอบแทน ทว่าบุคคลในครอบรัวของเขา ก็ถูก ก.ล.ต. ตรวจสอบและพบว่ามีการตกแต่งบัญชีและปั่นหุ้น “ปิกนิก” จนสุริยา ต้องลาออกจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ฯ ในที่สุด

แม้ต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าใครกันแน่เป็นตัวการสร้าง “ความปั่นป่วน” ให้ตลาด LPG แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ต้นทุนของ LPG นั้นจะเพิ่มขึ้นตามระยะทาง ยิ่งใช้มากค่าใช้จ่ายในการขนส่งก็ยิ่งเพิ่ม ปตท. ย่อมรู้สึกสูญเสียผลประโยชน์เพราะไม่ได้กำไรเพิ่มจาก LPG สักเท่าไหร่ เพราะต้องตรึงราคาขายส่ง แม้จะได้รับค่าชดเชยจากรัฐก็ตามและความนิยมของผู้ใช้ก๊าซ LPG ยังมากระทบตลาด NGV ให้ ปตท. ขาดทุนหนักเข้าไปอีก ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ NGV ขาดทุนสะสมแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท

เมื่อตลาด LPG กำลังปั่นป่วนรัฐพยายามสร้างความ “สงบและมั่นใจ” ให้กับตลาด NGV โดยตรึงราคาอยู่ที่ 8.5 บาท/กิโลกรัมจนถึงสิ้นปี และจะปรับขึ้นเป็น 11 และ 13 บาท ในปี 2552 และ 2553 นี่ย่อมเป็นมาตรการของรัฐที่ “บีบคั้น” ให้ประชาชนหันมาใช้ NGV มากขึ้น

ปตท. จึงมีรัฐเป็นกระบอกเสียงกล่าวโทษผู้บริโภคที่นำ “ก๊าซหุงต้ม” ไปใช้กับยานพาหนะ ทำให้แก๊สหุงต้มขาดแคลนและราคาเพิ่มสูงขึ้น ในแง่ต้นทุน LPG เป็น “ผลพลอยได้” จากการแยกก๊าซธรรมชาติหรือการกลั่นน้ำมันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีต้นทุนเพิ่มน้อยมาก แต่ในทางปฏิบัติ รัฐกลับตั้งราคาขาย LPG โดยอิงกับเกณฑ์ของต่างประเทศ เพื่อให้ LPG มีปริมาณเหลือไปทำกำไรส่วนอื่นไม่ใช่ภาคขนส่งที่มาแย่งตลาดเดียวกับ NGV ของ ปตท.



ธุรกิจพลังงาน - เขาพระวิหาร - เกาะกง

เกี่ยวข้องอย่างไรกับท่านทักษิน


หรือ เป็น "หายนะ" ที่คนไทยขายชาติกันเอง


กระชากหน้ากาก ปตท.
ตอนที่ 1 พลังงานเพื่อใคร?
ตอนที่ 2 สูตรปั่น “ราคาน้ำมัน” ทำกำไร !!!

มุมสบาย สบาย คลายเครียด